กฎหมายแรงงานต่างด้าวฉบับใหม่ 2567 การจ้างแรงงานต่างด้าวคือทางเลือกยอดนิยมของนายจ้างจำนวนมาก ด้วยทักษะ ความรู้ ความขยัน อดทน จึงทำให้งานหลายประเภทตอบโจทย์กับพวกเขาที่สุด อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญที่นายจ้างทุกคนควรต้องรู้เอาไว้นั่นคือการปฏิบัติตามกฎหมายแรงงานให้ถูกต้องเพื่อลดความเสี่ยงต่อข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงยังไม่ต้องถูกลงโทษทั้งนายจ้างและแรงงานอีกด้วย จึงอยากนำข้อมูลการอัปเดตล่าสุด กฎหมายแรงงานต่างด้าวฉบับใหม่มาให้ทุกคนได้ศึกษาเพื่อปฏิบัติตามอย่างเหมาะสม
กฎหมายแรงงานต่างด้าวฉบับใหม่ 2567
การขอใบอนุญาตทำงานของแรงงานต่างด้าว
เรื่องการขอใบอนุญาตทำงานของแรงงานต่างด้าวยังคงใช้ตามกฎหมายแรงงานต่างด้าวฉบับปี 2562 นั่นคือนายจ้างและแรงงานต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของ MOU กรณีพิเศษ หลักการสำคัญ ได้แก่
- แรงงานต่างด้าวที่อาศัยอยู่ในไทยไม่ต้องเดินทางกลับประเทศต้นทางของตนเอง และยังได้รับอนุญาตให้พำนักอาศัยในไทยได้อีกเป็นเวลา 2 ปี แต่ต้องมีการประทับตราเพื่อขอพำนักต่อครั้งละไม่เกิน 1 ปี
- แรงงานต่างด้าวที่ไม่ต้องการต่ออายุทำงาน ไม่ต้องการต่อใบอนุญาตต้องเดินทางกลับประเทศต้นทางของตนเอง แต่ถ้านายจ้างยังยื้อให้อยู่ต่อหรือแรงงานอยู่ต่อแบบผิดกฎหมายจะต้องได้รับโทษทั้ง 2 ฝ่าย
บทลงโทษกรณีนายจ้างและลูกจ้างทำผิดกฎหมายแรงงานต่างด้าว
1. นายจ้างต้องถูกปรับเป็นเงินตั้งแต่ 10,000 – 100,000 บาท / แรงงานต่างด้าว 1 คน กรณีที่พบว่ายังกระทำผิดซ้ำจะมีการปรับเพิ่มตั้งแต่ 50,000 – 200,000 บาท / แรงงานต่างด้าว 1 คน หรือจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ และห้ามนำเข้าแรงงานต่างด้าวอีกเป็นระยะเวลา 3 ปี
2. ลูกจ้าง / แรงงานต่างด้าวต้องถูกปรับเป็นเงิน 5,000 – 50,000 บาท และจะถูกส่งตัวกลับประเทศต้นทางของตนเอง รวมถึงยังห้ามขอใบอนุญาตเข้ามาทำงานในไทยเป็นเวลา 2 ปี นับตั้งแต่วันที่ตนเองได้รับบทลงโทษ
อัปเดตล่าสุด กฎหมายแรงงานต่างด้าวฉบับใหม่ การให้ความคุ้มครองแรงงาน
การอัปเดตล่าสุด กฎหมายแรงงานต่างด้าวฉบับใหม่ เกี่ยวกับเรื่องความคุ้มครองของแรงงานยังคงยึดตามหลักปฏิบัติของกฎหมายแรงงานต่างด้าวฉบับปี 2562 แต่มีการเพิ่มเติมความคุ้มครองลูกจ้างให้มากขึ้นไม่แตกต่างจากแรงงานไทยเพื่อให้การใช้ชีวิตของแรงงานเกิดความมั่นคงและสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี ดังนี้
1. กำหนดค่าแรงขั้นต่ำ
แรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในไทยทุกคนจะได้รับค่าแรงขั้นต่ำเหมือนกับแรงงานไทยตามที่กฎหมายกำหนดโดยแต่ละจังหวัดมีอัตราค่าแรงขั้นต่ำแตกต่างกันออกไป นายจ้างจึงต้องตรวจสอบข้อมูลพื้นที่จังหวัดของตนเองและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
2. นายจ้างไม่จ่ายค่าแรงทุกกรณี
หากนายจ้างไม่จ่ายค่าตอบแทนหรือค่าแรงตามเวลาที่แรงงานได้ทำ หรือกรณีไม่มีการคืนหลักประกันเป็นวงเงิน ไม่มีการจ่ายเงินเมื่อบอกเลิกสัญญาโดยไม่บอกล่วงหน้า ไม่มีการจ่ายค่าล่วงเวลาจากการทำงานจริง ไม่จ่ายค่าแรงเมื่อลูกจ้างทำงานในวันหยุด ไม่จ่ายค่าล่วงเวลาวันหยุด ไม่จ่ายเงินชดเชยเมื่อพักหรือเลิกกิจการ นายจ้างต้องเสียดอกเบี้ยค่าปรับให้กับแรงงานต่างด้าวอัตรา 15% ต่อปี ของยอดเงินที่ผิดนัดทั้งหมด
3. การยกเลิกสัญญา
กรณีนายจ้างยกเลิกสัญญาจ้างโดยไม่มีการบอกกล่าวล่วงหน้า นายจ้างต้องมีการจ่ายเงินค่าแรงทั้งหมดที่ลูกจ้างต้องได้รับนับจากวันที่เริ่มทำงาน หรือวันรับค่าแรงรอบล่าสุดจนถึงวันที่ลูกจ้างถูกให้ออกจากงาน หรือวันที่มีการยกเลิกสัญญาถูกบังคับใช้
4. การเปลี่ยนนายจ้าง
กรณีมีการเปลี่ยนนายจ้างต้องได้รับความยินยอมจากแรงงาน รวมถึงนายจ้างใหม่ต้องให้สิทธิประโยชน์ทั้งหมดเหมือนกับที่แรงงานเคยได้รับจากนายจ้างเดิม
5. การหยุดพักกิจการชั่วคราว
กรณีนายจ้างมีเหตุผลให้ต้องหยุดพักกิจการบางส่วนหรือทั้งหมด นายจ้างต้องจ่ายเงินค่าแรงให้กับแรงงานไม่ต่ำกว่า 75% ของค่าจ้างตามวันทำงานที่แรงงานได้ทำไว้แล้วก่อนที่นายจ้างจะหยุดพัก
6. สิทธิ์การลา
- การลากิจ แรงงานสามารถลาได้ไม่เกิน 3 วันทำงาน / ปี โดยยังคงได้รับเงินค่าจ้างตามปกติ
- การลาคลอดบุตร แรงงานผู้หญิงสามารถลาคลอดบุตรได้ไม่เกิน 98 วัน (นับรวมวันลาระหว่างกำลังตั้งครรภ์) โดยนายจ้างต้องจ่ายค่าแรงเท่ากับจำนวนวันปกติไม่เกิน 45 วัน
7. สิทธิด้านความเท่าเทียม
ไม่ว่าจะเป็นแรงงานต่างด้าวชายหรือหญิงก็มีสิทธิ์ได้รับค่าแรง ค่าแรงทำงานล่วงเวลา ค่าแรงทำงานวันหยุดจำนวนเท่ากัน หากประเภทหรือลักษณะงานที่ทำเป็นรูปแบบเดียวกัน
ข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าสนใจเกี่ยวกับกฎหมายแรงงานต่างด้าวฉบับใหม่
- แรงงานต่างด้าวที่นายจ้างทุกคนเลือกจ้างเข้ามาต้องมีใบอนุญาตการทำงานในไทย ออกให้โดยกรมจัดหางาน กระทรวงแรงงาน
- แรงงานต่างด้าวทุกคนต้องผ่านขั้นตอนการลงประทับตราวีซ่า และการอบรมเบื้องต้นก่อนเข้าทำงาน
- แรงงานต่างด้าวต้องมีการรายงานตัวทุก 90 วัน ต่อพนักงานสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และมีการแจ้งที่พักอาศัยก่อน 15 วัน หรือหลัง 7 วัน นับตั้งแต่วันครบกำหนด ไม่เช่นนั้นจะถูกปรับ 2,000 บาท
- แรงงานต่างด้าวต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพภายใน 30 วัน เพื่อขอใบอนุญาตทำงาน ซึ่งการตรวจโรคแบ่งเป็น โรคเรื้อน วัณโรคระยะอันตราย โรคพิษสุราเรื้อรัง โรคเท้าช้างระยะปรากฏอาการจนเป็นที่น่ารังเกียจต่อสังคม โรคซิฟิลิส และการติดยาเสพติด
หลังจากอัปเดต กฎหมายแรงงานต่างด้าวฉบับใหม่ล่าสุด 2567 กันไปแล้ว นายจ้างรายใดสนใจจ้างแรงงานต่างด้าวแบบถูกกฎหมาย “จ๊อบส์ เวิร์คเกอร์ เซอร์วิส” ผู้ให้บริการนำเข้าแรงงานต่างด้าวและการต่อใบอนุญาตทุกประเภทครบวงจร ถูกต้องตามกฎหมาย สะดวก รวดเร็ว
แรงงานต่างด้าวทักษะสูงในไทยมีเพียง 1%
ธนาคารแห่งประเทศไทย ให้ข้อมูลไว้ว่า ตลาดแรงงานไทยพึ่งพาแรงงานต่างด้าวเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าในอดีต และมีการไหลเข้าของแรงงานต่างด้าวติดอันดับที่ 17 ของโลก
ในช่วงเกือบ 20 ปีที่ผ่านมา จำนวนการจ้างงานแรงงานต่างด้าวทักษะต่ำปรับสูงขึ้นมาก โดยเฉพาะในช่วงที่มีนโยบายสำคัญ คือ ช่วงที่มีการขึ้นค่ำแรงขั้นต่ำ ในปี 2554 และช่วงที่มีการผ่อนผันการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวในปี 2561 ทำให้ปี 2562 มีจำนวนแรงงานต่างด้าวทักษะต่ำที่เป็นผู้ประกันตนภาคบังคับจำนวน 1,025,293 คน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 8.7% ของผู้ประกันตนทั้งหมด ขณะที่แรงงานต่างด้าวทักษะสูงกับแรงงานทั้งหมดยังถือว่ามีสัดส่วนค่อนข้างน้อย โดยปัจจุบันเรามีแรงงานต่างด้าวทักษะสูงราว 86,830 คน
อย่างไรก็ตาม นโยบายที่กล่าวไปก่อนหน้าไม่ได้มีผลต่อการเพิ่มขึ้นของแรงงานต่างด้าวทักษะสูงแต่อย่างใด สะท้อนจากสัดส่วนแรงงานต่างด้าวทักษะสูงปรับเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยมาอยู่ที่ประมาณ 1% ของกำลังแรงงานทั้งหมด หรือคิดเป็น 8% ของแรงงานต่างด้าวในระบบประกันสังคม ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศที่มีนโยบายบริหารแรงงานต่างด้าวที่ชัดเจน จะพบว่าจำนวนแรงงานต่างด้าวทักษะสูงมีสัดส่วนที่สูงกว่าไทยมาก อาทิ แคนาดา (53%) ออสเตรเลีย (41%) อังกฤษ (37%) สิงคโปร์ (29%) และสหรัฐอเมริกา (25%) (OECD, 2559)