25.3 C
Bangkok

เครดิตบูโร คืออะไร หากเราติดแล้วประวัติจะหายมั้ย

Published:

เครดิตบูโร หรือ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด เปรียบเสมือน สมุดพกประวัติการเงิน ของบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลบัญชีสินเชื่อและประวัติการชำระสินเชื่อทุกประเภท จากสถาบันการเงินและบริษัทที่เป็นสมาชิกเครดิตบูโร ข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำมาวิเคราะห์และประเมินความเสี่ยงในการให้สินเชื่อ

ข้อมูลใน เครดิตบูโร ประกอบด้วย 2 ส่วนหลักๆ ดังนี้

  • ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ นามสกุล เลขบัตรประชาชน ที่อยู่
  • ข้อมูลสินเชื่อ เช่น ประเภทของสินเชื่อ วงเงินที่ได้รับอนุมัติ ยอดคงเหลือ ประวัติการชำระหนี้

สถาบันการเงิน มักจะใช้ข้อมูลในเครดิตบูโรประกอบการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ เช่น บัตรเครดิต สินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถยนต์

ประโยชน์

  • ช่วยให้ผู้ขอสินเชื่อรู้ประวัติการชำระหนี้ของตัวเอง
  • ช่วยให้สถาบันการเงินวิเคราะห์ความเสี่ยงในการให้สินเชื่อ
  • ช่วยให้ผู้ขอสินเชื่อเปรียบเทียบข้อเสนอสินเชื่อจากสถาบันการเงินต่างๆ
  • ช่วยป้องกันการฉ้อโกงทางการเงิน

ผู้ขอสินเชื่อ สามารถขอตรวจสอบข้อมูลในเครดิตบูโรได้ โดยเสียค่าธรรมเนียม

ผลกระทบของการติดเครดิตบูโร

หากท่านติดเครดิตบูโร หมายถึง ท่านมี ประวัติการชำระหนี้ไม่ดี ซึ่งจะส่งผลเสียต่อท่าน ดังนี้

1. ถูกปฏิเสธการขอสินเชื่อ

  • สถาบันการเงินส่วนใหญ่จะพิจารณาข้อมูลในเครดิตบูโรประกอบการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ
  • หากท่านติดเครดิตบูโร ท่านมีโอกาสถูกปฏิเสธการขอสินเชื่อ เช่น บัตรเครดิต สินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถยนต์
  • แม้ว่าท่านจะมีรายได้เพียงพอ แต่หากท่านมีประวัติการชำระหนี้ไม่ดี สถาบันการเงินก็อาจจะไม่ให้สินเชื่อท่าน

2. เสียเปรียบในการเปรียบเทียบข้อเสนอสินเชื่อ

  • หากท่านติดเครดิตบูโร สถาบันการเงินอาจเสนออัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าปกติ
  • ทำให้ท่านเสียเปรียบในการเปรียบเทียบข้อเสนอสินเชื่อจากสถาบันการเงินต่างๆ

3. ถูกจำกัดโอกาสทางการเงิน

  • การติดเครดิตบูโร อาจส่งผลกระทบต่อโอกาสทางการเงินอื่นๆ เช่น การสมัครงานเช่าซื้อ
  • บางบริษัทอาจตรวจสอบข้อมูลในเครดิตบูโร ก่อนตัดสินใจว่าจะให้เช่าซื้อหรือไม่

4. เสียชื่อเสียงทางการเงิน

  • การติดเครดิตบูโร แสดงว่าท่านมีประวัติการชำระหนี้ไม่ดี
  • อาจส่งผลต่อชื่อเสียงทางการเงินของท่าน และอาจสร้างความยากลำบากในการทำธุรกรรมทางการเงินต่างๆ ในอนาคต

วิธีแก้ไขเมื่อติดเครดิตบูโร

1. ชำระหนี้ค้างชำระทั้งหมด

  • สิ่งสำคัญที่สุดคือ ท่านต้องชำระหนี้ค้างชำระทั้งหมดให้ครบถ้วน
  • เมื่อท่านชำระหนี้ค้างชำระ ข้อมูลในเครดิตบูโรของท่านจะได้รับการแก้ไข
  • และท่านจะสามารถขอสินเชื่อใหม่ได้

2. ติดต่อสถาบันการเงินเจ้าหนี้

  • ท่านสามารถติดต่อสถาบันการเงินเจ้าหนี้ เพื่อขอเจรจาต่อรองการชำระหนี้
  • เช่น ขอผ่อนชำระหนี้เป็นงวด หรือขอขยายเวลาชำระหนี้

3. ปรับปรุงพฤติกรรมการชำระหนี้

  • หลังจากท่านชำระหนี้ค้างชำระทั้งหมดแล้ว ท่านต้องปรับปรุงพฤติกรรมการชำระหนี้
  • โดยชำระหนี้ตรงเวลาทุกเดือน ไม่ก่อหนี้ใหม่ และรักษาเครดิตบูโรให้ดี

4. ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเครดิตบูโร

  • ท่านสามารถศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเครดิตบูโรเพิ่มเติม
  • จากเว็บไซต์ของบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด หรือจากแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่น่าเชื่อถือ

ขั้นตอนการตรวจเครดิตบูโร

ตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิต พ.ศ.2545 มาตรา 25 เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองให้ความเป็นธรรมแก่เจ้าของข้อมูลให้เจ้าของข้อมูล มีสิทธิที่จะตรวจสอบข้อมูลของตน โดยบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด มีความยินดีที่ให้ท่านตรวจสอบข้อมูล ดังนี้

ณ ที่ทำการบริษัท (ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร) มีขั้นตอนดังนี้

1. เจ้าของข้อมูลมาติดต่อด้วยตนเอง แสดงเอกสารหลักฐาน ดังนี้

กรณีบุคคลธรรมดา

  • บัตรประจำตัวประชาชน หรือหนังสือเดินทาง หรือบัตรประจำตัวบุคคลต่างด้าวตัวจริงนำมาแสดง

กรณีนิติบุคคล

  • สำเนาหนังสือรับรองของนิติบุคคล ที่รับรองไว้ไม่เกิน 3 เดือน และลงนามรับรองความถูกต้องโดยกรรมการผู้มีอำนาจ
  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาหนังสือเดินทางของกรรมการผู้มีอำนาจ และลงนามรับรองความถูกต้อง พร้อมตัวจริงนำมาแสดง
  • ตราประทับของนิติบุคคล (ถ้ามี) เพื่อใช้ประกอบการยื่นขอคำขอตรวจสอบข้อมูลเครดิต

2. เจ้าของข้อมูลมอบอำนาจให้บุคคลอื่นมาดำเนินการแทน แสดงเอกสารหลักฐาน ดังนี้

กรณีบุคคลธรรมดา

  • หนังสือมอบอำนาจบุคคลธรรมดา กรอกรายละเอียดและลงนามให้สมบูรณ์ครบถ้วน
  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบอำนาจ และลงนามรับรองความถูกต้อง พร้อมตัวจริงมาแสดง
  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ และลงนามรับรองความถูกต้อง พร้อมตัวจริงมาแสดง

กรณีนิติบุคคล

  • หนังสือมอบอำนาจนิติบุคคล กรอกรายละเอียดและลงนามให้สมบูรณ์ครบถ้วน
  • สำเนาหนังสือรับรองของนิติบุคคล ที่รับรองไว้ไม้เกิน 3 เดือน และลงนามรับรองความถูกต้องโดยกรรมการผู้มีอำนาจประทับตราของนิติบุคคล (ถ้ามี)
  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาหนังสือเดินทางของกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม และลงนามรับรองความถูกต้องพร้อมตัวจริงนำมาแสดง
  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาหนังสือเดินทางของผู้รับมอบอำนาจ และลงนามรับรองความถูกต้องพร้อมตัวจริงนำมาแสดง

*** ยื่นเอกสารในข้อ 1 และชำระค่าธรรมเนียมในการตรวจสอบข้อมูลเครติดต่อเจ้าหน้าที่ของบริษัท
*** เจ้าของข้อมูลสามารถขอรับรายงานภายในวันยื่นคำขอ หรือยื่นความจำนงให้จัดส่งรายงานทางไปรษณีย์ลงทะเบียน (กรณีให้จัดส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียน ฉบับละ 20 บาท)


อ่านบทความเพิ่มเติม คลิก 

ขอบคุณข้อมูลจาก www.ncb.co.th

 

Related articles

spot_img

Recent articles

spot_img