36.2 C
Bangkok

ทำไมกลิ่นถึงส่งผลต่อสมอง และอารมณ์ได้ ?

Published:

ทำไมกลิ่นถึงส่งผลต่อสมอง และอารมณ์ได้ ? และ เชื่อไหมว่า? การได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ก่อนเข้านอน
ช่วยให้เราคลายเครียด หลับสบาย และตื่นขึ้นมาอารมณ์ดีได้อีกด้วย

ทำไมกลิ่นถึงส่งผลต่อสมอง และอารมณ์ได้ ?

กลิ่นมีผลต่อสมองและอารมณ์ได้เนื่องจากกระบวนการทางจิตวิทยาและระบบประสาททางกลิ่นทำงานร่วมกันในการประมวลผลข้อมูลทางกลิ่นและส่งสัญญาณไปยังส่วนต่าง ๆ ของสมองที่เกี่ยวข้องกับการรับรู้, การจดจำ, และอารมณ์.

  1. ระบบประสาททางกลิ่น (Olfactory System): เมื่อเราสูดกลิ่น, จุลินทรีย์ที่อยู่ในลมหายใจจะเข้าสู่ชั้นมดลูกที่ตั้งที่ด้านหน้าของคอ และมีเส้นประสาทกลิ่นที่เชื่อมต่อไปยังมัน. มันจะส่งสัญญาณไปยังเซลล์ประสาทที่ตั้งในกิ่งมดลูกและมดลูก, แล้วส่งต่อไปยังสมอง.
  2. ส่วนของสมองที่เกี่ยวข้องกับกลิ่น : ส่วนของสมองที่เชื่อมโยงกับการรับรู้กลิ่นคือ เส้นในมดลูกและมดลูก (olfactory bulb) และส่วนต่าง ๆ ของมะเร็งที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาททางกลิ่น. ส่วนที่เกี่ยวข้องกับกลิ่นมีผลต่อการจดจำและอารมณ์.
  3. การกระตุ้นอารมณ์ : กลิ่นสามารถกระตุ้นอารมณ์ได้โดยตรง, บางกลิ่นอาจทำให้เรารู้สึกสดชื่น, ผ่อนคลาย, หรือทำให้เกิดความสนใจ. นอกจากนี้, กลิ่นยังสามารถเป็นที่ที่เก็บความทรงจำและมีความสัมพันธ์กับประสบการณ์ทางอารมณ์.
  4. เชื่อมโยงกับส่วนที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่สูง (Cognitive Functions): กลิ่นยังเชื่อมโยงกับส่วนของสมองที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่สูง เช่น ส่วนหน้าผีเสื้อ (prefrontal cortex) ที่มีหน้าที่ควบคุมการตัดสินใจ, การวางแผน, และความสัมพันธ์ทางสังคม.

ดังนั้น, การสนใจกลิ่นสามารถกระตุ้นทั้งการรับรู้, ความทรงจำ, และอารมณ์ในสมองของเรา. บางครั้ง, กลิ่นอาจทำให้เกิดความรู้สึกทางอารมณ์และมีผลต่ออารมณ์เช่น ความสุข, โกรธ, หรือเศร้า

อารมย์และความรู้สึกต่างๆ 

อารมณ์เศร้า เสียใจ  หากคุณตกอยู่ในภาวะซึมเศร้า เสียใจ กลิ่นดอกไม้นานาชนิดสามารถช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายได้ ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นหอมคลาสสิคจากดอกกุหลาบ กลิ่นหอมสดชื่นของดอกมะลิ หรือกลิ่นหอมผ่อนคลายของลาเวนเดอร์ จากงานวิจัยยังพบว่ากลิ่นหอมของดอกไม้นานาชนิด สามารถช่วยบรรเทาความรู้สึกหดหู่ ลดภาวะซึมเศร้า และอาการนอนไม่หลับได้เป็นอย่างดี

อารมณ์โกรธ  หากคุณตกอยู่ในอารมณ์โกรธ เกรี้ยวกราดหรือเกิดอาการรำคาญใจ กลิ่นลาเวนเดอร์สามารถช่วยระงับอารมณ์เหล่านั้นได้ เนื่องจากกลิ่นลาเวนเดอร์เป็นกลิ่นที่มีผลต่อระบบประสาท และอารมณ์ ช่วยคลายเครียด และความรู้สึกโกรธได้เป็นอย่างดี ลองหยดน้ำมันลาเวนเดอร์ผสมกับครีมอาบน้ำ หรือโลชั่นจะช่วยเพิ่มความผ่อนคลายให้คุณได้

อารมณ์เครียด  ปลดปล่อยความเครียดจากการทำงาน ด้วยการสัมผัสกลิ่นของทะเล เพราะกลิ่น Ocean จะช่วยให้คุณหลุดอยู่ในภวังค์กลิ่นหอมของชายหาดทะเล รู้สึกถึงความอบอุ่นที่ได้จากแสงแดด ช่วยให้ร่างกายของคุณรู้สึกผ่อนคลาย คลายความเครียดของสมอง ปลุกพลังในร่างกายของคุณให้กลับมามีแรง ชดชื่น สดใสและรู้สึกผ่อนคลายอย่างน่าอัศจรรย์ เมื่อได้สัมผัส

อารมณ์เบื่อ  หากคุณเบื่อหน่ายกับสิ่งรอบตัว จนรู้สึกไม่อยากจะทำอะไร ขอแนะนำให้ลองสัมผัสกับกลิ่น Cool Mint ที่จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการตื่นตัว รู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า และด้วยคุณสมบัติของมิ้นต์ ที่มีส่วนช่วยในการบำบัดสุขภาพด้วยกลิ่น (aromatherapy) จึงให้ทำให้รู้สึกสดชื่นได้อย่างรวดเร็ว สามารถช่วยคลายความรู้สึกเบื่อหน่าย และเฉื่อยชาได้เป็นอย่างดี

อารมณ์เหนื่อยล้า  ไม่ว่าคุณจะเหนื่อยล้าจากการทำงาน จากการเรียนหรือจากสภาวะต่างๆ ของชีวิต ให้กลิ่น Citrus Mango ที่มีความหอมสดชื่นจากผลส้ม Citrus บวกกับความหอมหวานอมเปรี้ยวของผลมะม่วงเหลืองทอง ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว ทำหน้าที่คลายความเหนื่อยล้าเหล่านั้นและเติมเต็มความรู้สึกสดชื่น ปลุกความเหนื่อยล้าของสมองและร่างกายของคุณ ให้กลับมาสดชื่น สดใส มีพลังพร้อมรับกับการเริ่มต้นใหม่ๆ ได้อีกครั้ง

อารมณ์หงุดหงิด  หากคุณมีความรู้สึก หงุดหงิด กระวนกระวายใจ ลองเลือกใช้กลิ่น Cucumber Melon ในการช่วยเพิ่มความผ่อนคลายด้วยกลิ่นหอมหวานกลมกล่อมของผลเมล่อนเหลืองทอง บวกกับ กลิ่นสะอาด สดชื่นของแตงกวา ที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว จะช่วยคลายอารมณ์ด้านลบของคุณ ช่วยให้ความรู้สึกเย็นสดชื่นหอมหวานละมุนละไม สร้างอารมณ์สงบนิ่ง รับรองว่าหายจากความหงุดหงิด กังวลใจไปเลยหล่ะ

ผลจากงานวิจัย

มีงานวิจัยปี 2008 หัวข้อ Olfactory Influences on Mood and Autonomic, Endocrine, and Immune Function โดยใช้อาสาสมัครวิจัย 56 คน ทดลองดมกลิ่น 3 ประเภท ได้แก่ กลิ่นน้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์ (Lavandula Angustifolia) กลิ่นน้ำมันหอมระเหยเลมอน (Citrus Limonum) และกลิ่นน้ำกลั่น (Distilled Water) แทนสภาวะไร้กลิ่น แล้วแบ่งกลุ่มทดลองเป็น 2 กลุ่ม เป็นกลุ่มที่ได้รับข้อมูลของกลิ่นก่อนการทดลอง (Primed Group) และกลุ่มที่ไม่ได้รับข้อมูล (Blind Group)​

ผลจากการวิจัยนี้พบว่า กลิ่นเลมอนส่งผลต่ออารมณ์เชิงบวกมากที่สุด จากผลการทำแบบทดสอบประเมินอารมณ์ความรู้สึก (Positive And Negative Affect Schedule: PANAS) ผลจากแบบทดสอบอ่านออกเสียงสีของตัวอักษรที่เห็นในภาพ (Stroop) จำนวนคำบรรยายที่มีความหมายเชิงบวกจากผู้ทดลองหลังจากการดมกลิ่น (Thought-Listing) และผลจากแบบทดสอบภาพวัดอารมณ์ความรู้สึกและความสนใจ (International Affective Picture System: IAPS)

โดยกลิ่นเลมอนส่งผลต่ออารมณ์เชิงบวกและการตื่นตัว จากการวัดระดับสารเคมีในสมองที่ชื่อ “นอร์อิพิเนฟริน” (Norepinephrine) ซึ่งสารนี้ส่งผลให้สมองมีการตื่นตัว ถูกกระตุ้น และเพิ่มความเร็วในการตอบสนอง และผลของอัตราการเต้นของหัวใจ (Heart Rate) ที่เพิ่มขึ้นจากการสูดดม ในขณะที่กลิ่นลาเวนเดอร์ จะส่งผลต่ออารมณ์เชิงบวกและการผ่อนคลาย จากระดับนอร์อิพิเนฟรินและผลของอัตราการเต้นของหัวใจที่ลดลง โดยกลุ่มที่ได้รับข้อมูลของกลิ่นก่อนการทดลองจะมีอัตราการเต้นของหัวใจสูงกว่ากลุ่มที่ไม่ได้รับข้อมูล​

จากงานวิจัยนี้จะเห็นได้ว่า กลิ่นหอมส่งผลต่ออารมณ์และการตอบสนองของเราแตกต่างกัน โดยสามารถช่วยให้รู้สึกตื่นตัวหรือผ่อนคลายได้ทั้งนั้น และสำหรับในช่วงปีใหม่นี้ ถ้าใครกำลังหาของขวัญให้คนพิเศษ ผลิตภัณฑ์ที่มีกลิ่นหอมก็นับเป็นตัวเลือกที่ดีเช่นกัน แต่ก็อย่าลืมเช็กก่อน ว่าคนที่ได้รับแพ้น้ำหอมด้วยหรือเปล่า?​


อ่านบทความเพิ่มเติม คลิก

Related articles

spot_img

Recent articles

spot_img