ประโยชน์ของ กรีกโยเกิร์ต และวิธีการทำง่ายๆ

กรีกโยเกิร์ต (Greek Yogurt) คือ โยเกิร์ตประเภทหนึ่งที่มีเนื้อสัมผัสเข้มข้นกว่าโยเกิร์ตทั่วไป เกิดจากการนำโยเกิร์ตธรรมดามากรองเอาน้ำเวย์ (whey) ออกจนเหลือแต่เนื้อโยเกิร์ตเข้มข้น ผลลัพธ์ที่ได้คือ โยเกิร์ตที่มีเนื้อครีมข้น รสเปรี้ยว และมีปริมาณสารอาหารที่มากกว่าโยเกิร์ตทั่วไป

ทำไม กรีกโยเกิร์ต ถึงดีต่อสุขภาพ

กรีกโยเกิร์ต นั้น เต็มไปด้วยสารอาหารมากมาย มีประโยชน์ต่อร่างกายของเรา ดังนี้

1. โปรตีนสูง: กรีกโยเกิร์ตมีโปรตีนสูงกว่าโยเกิร์ตทั่วไปประมาณ 2-3 เท่า เหมาะกับผู้ที่ต้องการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ หรือควบคุมน้ำหนัก

• โปรตีน 1 ถ้วยตวง เทียบเท่ากับ อกไก่ 1 ชิ้น หรือ ไข่ 2 ฟอง
• โปรตีน ช่วยให้รู้สึกอิ่มนาน ลดความอยากอาหาร
• โปรตีน ช่วยซ่อมแซมกล้ามเนื้อ เหมาะกับผู้ที่ออกกำลังกาย

2. แคลเซียมสูง: กรีกโยเกิร์ตมีแคลเซียมสูง ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง

• แคลเซียม 1 ถ้วยตวง เทียบเท่ากับ นม 3 แก้ว
• แคลเซียม ช่วยลดความเสี่ยงโรคกระดูกพรุน
• แคลเซียม ช่วยให้ฟันแข็งแรง

3. จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์: กรีกโยเกิร์ตมีจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ หรือโพรไบโอติกส์ ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน

โพรไบโอติกส์ ช่วยย่อยแลคโตส เหมาะกับผู้ที่มีภาวะย่อยแลคโตสบกพร่อง

โพรไบโอติกส์ ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานดีขึ้น

โพรไบโอติกส์ ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน

4. ไขมันต่ำ: กรีกโยเกิร์ตมีไขมันต่ำ เหมาะกับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก

• ไขมัน 1 ถ้วยตวง มีไขมันเพียง 2 กรัม
• ไขมันอิ่มตัวต่ำ

5. น้ำตาลต่ำ: กรีกโยเกิร์ตมีน้ำตาลต่ำ เหมาะกับผู้ที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

• น้ำตาล 1 ถ้วยตวง มีน้ำตาลเพียง 4 กรัม
• เหมาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวาน

6. โปรไบโอติกส์: กรีกโยเกิร์ตมีโปรไบโอติกส์ ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น

• โปรไบโอติกส์ ช่วยดูดซึมสารอาหาร
• โปรไบโอติกส์ ช่วยป้องกันการติดเชื้อ

7. กรดอะมิโนจำเป็น: กรีกโยเกิร์ตมีกรดอะมิโนจำเป็นครบถ้วน

• กรดอะมิโน ช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโต
• กรดอะมิโน ช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อ

8. วิตามินและแร่ธาตุ: กรีกโยเกิร์ตมีวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด เช่น วิตามินบี 12 โพแทสเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส

วิธีการทำกรีกโยเกิร์ต

วัตถุดิบ:

นมจืด 1 ลิตร

โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วยตวง

อุปกรณ์:

หม้อต้ม

ตะแกรง

ผ้าขาวบาง

ภาชนะสำหรับใส่นม

วิธีทำ:

• เทนมลงในหม้อต้ม ตั้งไฟอ่อน คนเรื่อย ๆ จนอุณหภูมิของนมอยู่ที่ 80 – 82 องศาเซลเซียส (ใช้เวลาประมาณ 15 – 20 นาที)
• ยกลงจากเตา พักไว้ให้อุณหภูมิลดลงเหลือ 43 – 46 องศาเซลเซียส (ใช้เวลาประมาณ 30 – 45 นาที)
• เทโยเกิร์ตรสธรรมชาติลงในถ้วย คนให้เนื้อเนียน
• ใส่นมลงไปเล็กน้อย คนให้เข้ากัน
• เทส่วนผสมทั้งหมดลงในหม้อ คนให้เข้ากัน
• เทส่วนผสมลงในผ้าขาวบางที่วางบนตะแกรง
• พักไว้ 6 – 8 ชั่วโมง ให้ whey (น้ำเหลือง) แยกตัวออก
• เก็บกรีกโยเกิร์ตในตู้เย็น ทานได้นาน 3 – 5 วัน

*****

• อุณหภูมิของนมสำคัญมาก
• หากอุณหภูมิสูงเกินไป โยเกิร์ตจะไม่จับตัว
• หากอุณหภูมิต่ำเกินไป โยเกิร์ตจะเปรี้ยว
• สามารถใช้นม UHT แทนนมสดได้
• สามารถใช้หม้อหุงข้าวต้มนมแทนการต้มบนเตาได้
• สามารถใช้เครื่องทำโยเกิร์ตได้
• สามารถเพิ่มรสชาติให้กรีกโยเกิร์ตด้วยผลไม้ น้ำผึ้ง หรือน้ำเชื่อมได้

อ่านบทความเพิ่มเติม คลิก