36.2 C
Bangkok

มารู้จัก สุนัข บีเกิล กัน น้องจะน่ารักแค่ไหนกันนะ

Published:

ทาสน้องมามารวมตัวกันตรงนี้ วันนี้เราเอาน้องหมา บีเกิล มาฝาก สำหรับใครนั้นที่กำลังดูอยู่ว่าเรานั้นเหมาะกับน้องหมาพันธ์ไหนกันนะ วันนี้เราขอแนะนำน้องบีเกิลเลยนอกจากนิสัยของน้องนั้นจะน่ารักแล้ว น้องนั้นยังเลี้ยงง่าย เป็นมิตรกับคนอีกด้วยนะ เหมาะสุด ๆ สำหรับคนที่กำลังจะมองหาน้องหมาสักตัวมาเลี้ยงเป็นเพื่อนเลยแหละ

ประวัติของ บีเกิล

สุนัขพันธุ์บีเกิ้ลมีถิ่นกำเนิดอยู่ที่ประเทศอังกฤษ โดยเริ่มแรกถูกเพาะพันธุ์มาเพื่อล่ากระต่ายป่า พวกเค้าถูกจัดอยู่ในกลุ่ม ‘สุนัขล่าเหยื่อด้วยกลิ่น’ เพราะประสาทด้านการรับกลิ่นที่เป็นเลิศ นอกจากนี้สุนัขบีเกิ้ลยังมีทักษะการติดตามแกะรอยที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย และด้วยข้อดีทั้งหมดที่ว่ามานี้ ทำให้พวกเค้ากลายเป็นนักล่าที่เก่งกาจ

สุนัขบีเกิ้ลจัดเป็นสุนัขสายพันธุ์กลาง ขึ้นชื่อเรื่องความเฉลียวฉลาด จุดเด่นของบีเกิ้ลคือใบหูที่พับลงมาชิดกับหัว และดวงตากลมโตที่พร้อมจะละลายใจทุกคนที่เผลอมาสบตา ถึงแม้พวกเค้าจะมีขนสั้น ไม่หนา แต่มีขนร่วงบ่อย เจ้าของจึงควรใส่ใจดูแลและกรูมมิ่งให้พวกเค้าเป็นประจำ

เมื่อพูดถึงสุนัขพันธุ์บีเกิ้ล อุปนิสัยที่โดดเด่นคือ ความซุกซน ขี้เล่น  พวกเค้าชอบใช้เวลาร่วมกับเจ้าของ และค่อนข้างเป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยงตัวอื่น พวกเค้าเป็นตัวเลือกที่สำหรับเจ้าของส่วนใหญ่ เนื่องจากไม่ค่อยมีปัญหาด้านสุขภาพ ดูแลง่าย ปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศต่าง ๆ ได้ดี แต่สุนัขบีเกิ้ลเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังงาน และจำเป็นต้องปลดปล่อยพลังเหล่านั้นออกมา นั่นหมายความว่าเจ้าของต้องหมั่นหากิจกรรมให้พวกเค้าทำเป็นประจำ เพื่อให้มั่นใจว่าเจ้าบีเกิ้ลของคุณได้ออกกำลังกายอย่างเพียงพอ และมีสุขภาพที่แข็งแรง

บีเกิล

ลักษณะนิสัย

บีเกิ้ลมีลักษณะนิสัยที่อ่อนโยน มักสร้างเสียงหัวเราะให้กับเจ้าของด้วยความน่ารักและตลกขี้เล่น แต่ในความน่ารักนั้นก็มีความซนอยู่ด้วยเหมือนกัน (ซึ่งบางทีก็อาจทำให้เจ้าของหัวเราะได้ทั้งน้ำตา) และบีเกิ้ลก็ไม่ต่างจากสุนัขสายพันธุ์อื่น ๆ ที่ต้องการได้รับความเอาใจใส่ดูแลจากเจ้าของ ชอบการเข้าสังคมพบปะผู้คนหลากหลาย ชอบออกไปเที่ยว ได้มองเห็น ได้ยินเสียงใหม่ ๆ และตอบรับกับทุกประสบการณ์ที่เจ้าของมอบให้ ดังนั้นเคล็ดไม่ลับในการฟูมฟักลูกสุนัขสายพันธุ์นี้ก็คือการให้บีเกิ้ลอยู่ท่ามกลางหมู่เพื่อนสัตว์เลี้ยง รับรองว่าจะสร้างความแฮปปี้ให้กับเจ้าบีเกิ้ลได้มากกว่าปล่อยให้บีเกิ้ลอยู่ตามลำพังในบ้าน เพราะถ้าปล่อยบีเกิ้ลไว้ที่สนามหญ้าหลังบ้านไว้เพียงตัวเดียว บีเกิ้ลก็อาจหาวิธีสร้างความสนุก (แต่ชวนปวดหัว) ด้วยการเห่าหอน ขุดดิน หรือพยายามหนีจากบริเวณนั้นออกมาได้

ลักษณะทางกายภาพของน้อง

– ขนาดตัวของสุนัขบีเกิ้ลถูกแบ่งออกเป็น 2 ขนาด โดยขนาดแรกจะมีน้ำหนักตัวอยู่ที่ประมาณ 9 กก. หรือน้อยกว่า ส่วนขนาดที่สองคือน้ำหนักตัวระหว่าง 9 – 15.8 กก. ถึงแม้จะไม่ใช่สุนัขตัวใหญ่ แต่อย่าประเมินพวกเค้าต่ำไปหล่ะ เพราะบีเกิ้ลทั้งแข็งแรงและมีพลังงานสูงมาก ถัดจากเรื่องขนาดตัวก็ต้องพูดถึงลักษณะขน พวกเค้ามีขนสองชั้น สั้น เรียบแน่น แต่มีสีขนที่หลากหลาย เช่น –

สีดำและน้ำตาลไหม้

สีดำน้ำตาลแดง และขาว

สีดำน้ำตาลไหม้ และแต้มจุด

สีดำน้ำตาลไหม้ และขาว

สีดำขาว และน้ำตาลไหม้

สีน้ำตาลและขาว

สีน้ำตาล ขาว และน้ำตาลไหม้

สีน้ำตาลเหลืองและขาว

สีขาวและน้ำตาลแดง

สีน้ำตาลไหม้และขาว

สีเทาหม่นและขาว

เราอาจพบลวดลายบนขนของสุนัขบีเกิ้ลบางตัว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลายจุด แต่ก็อาจพบลวดลายดังต่อไปนี้ได้ด้วยเช่นกัน

รอยด่าง

แต้มขนสีขาว

แต้มขนสีน้ำตาลไหม้

แต้มขนสีน้ำตาล

แต้มขนสีดำ

หากต้องการยืนยันว่าเรากำลังเลี้ยงบีเกิ้ลพันธุ์แท้ คุณสามารถสังเกตจากลักษณะบ่งชี้เหล่านี้ได้เลย

ปลายหางของบีเกิ้ลพันธุ์แท้จะมีสีขาวเสมอ

อุ้งเท้าทั้งสี่ข้างก็จะมีสีขาวเช่นเดียวกัน

ใบหูมีขนนุ่ม และพับลงมาชิดกับหัว แตกต่างจากสุนัขพันธุ์อื่น

ขามีขนาดสั้นกว่าลำตัว

บีเกิ้ลพันธุ์แท้จะมีลายขนสีขาวบนหัว ทั้งนี้อาจพบได้ในพันธุ์ผสมบางตัวเช่นกัน

บีเกิล

การดูแลสุนัขบีเกิ้ล

หากว่าเรานั้นคิดแล้วแหละว่าเราจะเลี้ยงน้องหมาพันธ์นี้ เรานั้นก็ควรที่จะรู้ก่อนว่า การดูแลน้องนั้นจะต้องดูแลเอาใจใส่ทางด้านไหนบ้าง วันนี้เราก็ได้รวบรวมการดูแลน้องมาฝากอีกด้วย

1.สุขภาพ

สุนัขบีเกิ้ลไม่ค่อยมีปัญหาสุขภาพทางพันธุกรรม แต่เช่นเดียวกับสุนัขทุกสายพันธุ์ บีเกิ้ลเองก็มีโรคที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ซึ่งก็คือโรคทางพันธุกรรมที่ชื่อว่า Musladin-Lueke Syndrome โดยจะส่งผลกระทบต่อเนื้อเยื่อ อวัยวะ กระดูก และผิวหนังของพวกเค้า นอกจากนี้ด้วยนิสัยกินเก่ง กินเยอะ บีเกิ้ลจึงมีแนวโน้มที่จะอ้วนได้ง่าย เจ้าของจึงควรกำหนดปริมาณอาหารในแต่ละวันให้เหมาะสม ส่วนปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ที่อาจพบได้จะมีไฮโปไทรอยด์ โรคลมชัก ข้อสะโพกเสื่อม และโรคสะบ้าเคลื่อน

2.การกรูมมิ่ง

บีเกิ้ลมีขนสั้น ไม่หนามาก จึงทำให้ปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศต่าง ๆ ได้ดี แต่ปัญหาอย่างเดียวคือขนร่วง ดังนั้นเจ้าของที่เลี้ยงบีเกิ้ล ต้องหมั่นแปรงขนให้พวกเค้าเป็นประจำ หรือประมาณ 2 – 3 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อให้มั่นใจว่าขนสะอาดและอยู่ในสภาพที่ดี เนื่องจากมีขนสองชั้น ขนจึงอาจร่วงหนักมากในช่วงฤดูใบไม้ผลิ คุณอาจต้องแปรงขนให้พวกเค้าบ่อยขึ้นในช่วงนี้ บีเกิ้ลไม่จำเป็นต้องอาบน้ำบ่อย เว้นเสียแต่ว่าพวกเค้าจะเล่นซนจนเนื้อตัวมอมแมม หรือขนเต็มไปด้วยโคลน ส่วนเล็บควรตัดเป็นประจำ ไม่ควรปล่อยให้ยาวจนเกินไป สุดท้ายคือควรดูแลทำความสะอาดใบหูทุกสัปดาห์ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ เพราะใบหูที่ห้อยลงมา ปิดกั้นการไหลเวียนของอากาศภายในหู ทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะติดเชื้อที่หูได้ คุณควรปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อขอคำแนะนำหรือวิธีทำความสะอาดใบหูที่ถูกต้อง

3.การออกกำลังกาย

บีเกิ้ลมีความต้องการออกกำลังกายสูง เนื่องจากเป็นสุนัขที่พลังงานเยอะ พวกเค้าต้องได้เดินอย่างน้อยวันละ 1 ชั่วโมง จะเป็นการเดินเล่นในสวนหรือเดินในละแวกบ้านของคุณก็ได้ การเดินเล่นจะช่วยให้พวกเค้าแข็งแรง และมีความสุขมาก ๆ ข้อควรระวังในการเดินเล่นกับบีเกิ้ลคือ ต้องใส่สายจูงทุกครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้พวกเค้าวิ่งเตลิดหรือออกวิ่งไล่ล่าเหยื่อ

4.โภชนาการ

บีเกิ้ลเป็นจอมตะกละที่พร้อมจะกินทุกอย่างที่ขวางหน้า เพื่อให้ได้ปริมาณอาหารที่เพียงพอและเหมาะสม แนะนำให้แบ่งมื้ออาหารออกเป็น 2 มื้อต่อวัน และควรเป็นอาหารเม็ดปริมาณ ¾ ถ้วยต่อมื้อ เช่นเดียวกับสุนัขพันธุ์อื่น สำหรับบีเกิ้ลอาหารที่พวกเค้าควรได้รับจะขึ้นอยู่กับช่วงวัย ไลฟ์สไตล์ ขนาดตัว และอายุ

5.การฝึก

บีเกิ้ลเป็นสุนัขที่เฉลียวฉลาด แต่ฝึกค่อนข้างยาก เพราะสัญชาตญาณความเป็นนักล่าในตัว ทำให้พวกเค้ามักออกไปสำรวจสิ่งต่าง ๆ ตามใจชอบ มากกว่าทำตามคำสั่ง คุณอาจต้องใช้ขนมเป็นตัวช่วยดึงดูดความสนใจพวกเค้ามากหน่อย รวมถึงอาจฝึกผ่านการเล่นเกมที่น่าสนใจและสร้างความสนุกสนานได้ดี


 

อ่านต่อบทความเพิ่มเติม คลิก

ขอบคุณข้อมูล www.pedigree.co.th

Related articles

spot_img

Recent articles

spot_img