ภาพลวงตา หมายถึง ภาพที่หลอกตาให้มองเห็นและรับรู้ผิดพลาดไปจากความเป็นจริง ส่วนใหญ่สายตาจะรับรู้ผิดพลาดเกี่ยวกับรูปทรง ขนาด และสี ซึ่งมักถูกมาเปรียบเทียบกับ ความสัมพันธ์แบบภาพลวงตา ซึ่งเป็นความสัมพันธ์แบบหลอกๆ
ภาพลวงตาเกิดขึ้นเนื่องจากกระบวนการในสมองขณะที่มองเห็นภาพหรือรับสัญญาณทางสายตาที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุที่ส่งผลให้เกิดการรับรู้ที่ผิดพลาด อาทิเช่น:
- การปรับสมดุลของสมอง: สมองมนุษย์มีกลไกในการปรับสมดุลและประมวลผลข้อมูลที่เข้าสู่สมอง บางครั้งสมองอาจจับคู่ข้อมูลที่ไม่สอดคล้องกันหรือไม่เกี่ยวข้องกันมาแสดงผลให้เกิดภาพลวงตา
- การปรับตัวของสายตา: สายตามนุษย์มีความสามารถในการปรับตัวและปรับเปลี่ยนตามเงื่อนไขแวดล้อม แต่บางครั้งการปรับตัวนี้อาจทำให้เกิดการรับรู้ที่ผิดพลาด เช่น เมื่อสายตาโดยส่วนใหญ่มองหนึ่งปรากฏการณ์ แต่ส่วนหนึ่งของสายตาอาจมองสิ่งอื่นที่อยู่ใกล้เกินไป
- การใช้เทคนิคการสร้างภาพ: บางครั้งภาพลวงตาเกิดจากการใช้เทคนิคการสร้างภาพที่ทำให้สมองมีการตีความผิด อย่างเช่น ภาพที่ใช้เทคนิคการสร้างภาพเคลื่อนไหวหรือเทคนิคการใช้สีที่มีเท็จจริงในการสร้างภาพ
- ความผิดพลาดในการประมวลผลข้อมูลทางสายตา: บางครั้งสมองอาจทำการประมวลผลข้อมูลทางสายตาที่ไม่ถูกต้อง ทำให้เกิดการรับรู้ที่ผิดพลาด เช่น การละเว้นข้อมูลหรือการเข้าใจข้อมูลที่ผิดปกติ
สำหรับแต่ละบุคคล สามารถมีสาเหตุที่เป็นเอกสิทธิ์เองในการเกิดภาพลวงตาได้ และบางครั้งก็อาจเกิดขึ้นเนื่องจากการปรับตัวของสมองหรือสายตาในสถานการณ์ที่เฉพาะเจาะจง เช่น การมองภาพที่มีความซับซ้อน การมองแสงที่แตกต่างกัน หรือสภาวะทางจิตใจ เช่น ความเครียด ความเหนื่อยล้า หรือสภาวะอารมณ์ที่ไม่สมดุล เป็นต้น
ความสัมพันธ์แบบภาพลวงตา 2567
ในบางครั้งตาของคนเราก็ไม่ได้เห็นสิ่งที่เป็นอยู่จริงเสมอไปและสามารถถูกหลอกได้ง่าย ตาและสมองของคนเราจะทำงานประสานกันอย่างใกล้ชิดมาก โดยตาทำหน้าที่รับภาพเข้ามา ส่วนสมองทำหน้าที่ประมวลผลและวิเคราะห์ว่าภาพที่รับเข้ามาเป็นภาพอะไร มีสีอะไร เป็นภาพเคลื่อนไหวหรือภาพนิ่ง เมื่อแสงจากวัตถุกระทบกับเลนส์ตาจะเกิดการหักเหและเกิดเป็นภาพจริงบริเวณจอตา(retina) และจอตาก็จะดูดซับและแปลงภาพให้เป็นสัญญาณไฟฟ้าส่งต่อไปยังสมอง
สาเหตุของการเกิดภาพลวงตา
สาเหตุที่คนเราเห็นภาพลวงตานั้นมาจากวิวัฒนาการของสมองด้านการประมวลผลภาพ หากสมองใช้เวลานานมากเกินไปในการประมวลผลภาพอาจจะทำให้เกิดผลเสียขึ้นได้ เช่น ถ้าเราขับรถอยู่และสมองต้องประมวลผลทุกสิ่งทุกอย่างที่เห็นทุก ๆ ครั้ง กว่าจะรับรู้ว่ามันคืออะไรและควรทำอย่างไร ก็คงจะขับรถชนมันไปก่อนแล้ว สมองจึงต้องใช้วิธีลัดทุกวิธีที่จะได้ผลลัพธ์ออกมาให้เร็วที่สุด มันจึงเชื่อมโยงสิ่งที่เห็นเข้ากับสมมติฐานจากประสบการณ์ประกอบเป็นสิ่งที่เรารับรู้
สาเหตุของการเกิดภาพลวงตาสามารถแบ่งออกได้ดังนี้
- เกิดจากความสามารถในการกวาดสายตาในแนวดิ่งและแนวราบไม่เท่ากัน
- เกิดจากตา 2 ข้าง ส่งข้อมูลที่แตกต่างกันไปยังสมอง
- เกิดจากการเติมสิ่งหนึ่งสิ่งใด (Embeddedness)
- เกิดจากการเกิดมุมหรือ การตัดกันของเส้น (Angle of Intersection Lines)
- เกิดจากการเปรียบเทียบ หรือขนาดสัมพัทธ์ (Relative Size)
- เกิดจากสิ่งแวดล้อม
- เกิดจากการมองภาพด้วยนัยน์ตาทั้งสองข้าง
- เกิดจากเซลล์ประสาทตามีขีดจำกัดในการรับรู้
- เกิดจากสมบัติของแสง เช่น ภาพลวงตาที่เกิดจากการสะท้อนของแสง ทำให้ภาพมีขนาดใหญ่กว่าวัตถุของจริง
ภาพลวงตาทางบวก คือ 2567
คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ข้อมูลไว้ดังนี้ การเกิดภาพลวงตาทางบวก ประกอบด้วย การเห็นคุณค่าในตนเองสูง หรือมองตนเองในทางบวกเกินจริง การรับรู้ว่าตนมีความสามารถในการควบคุมสถานการณ์ต่าง ๆ ได้เกินความสามารถที่แท้จริงของตนเอง และการมองโลกในแง่ดีว่าในอนาคตจะมีแต่สิ่งดี ๆ เกิดขึ้น
การเกิดภาพลวงตาทางบวกนั้นเป็นสิ่งที่เกิดได้ในบุคคลทั่วไป เราจะมองตนเองตามจริงและมีแนวโน้มไปในทางบวกเกินจริงหรือเกิดภาพลวงตาทางบวกเกี่ยวกับตนเอง ส่วนบุคคลที่มองตนเองไปในทางลบเกินจริงคือผู้ที่มีภาวะซึมเศร้า
กล่าวได้ว่า การเกิดภาพลวงตาทางบวกนี้เปรียบเสมือนต้นทุนทางจิตให้บุคคลสามารถเผชิญกับอุปสรรคปัญหาและผ่านพ้นไปได้ รวมทั้งส่งผลให้บุคคลมีสุขภาวะทางจิตที่ดี ขณะที่บุคคลที่มองแต่ความจริงมากเกินไป ไม่มีการสร้างภาพลวงตาทางบวกเลย มีแนวโน้มที่จะมีความทุกข์ จัดระบบตนเองไม่ดี และส่งผลกระทบต่อสุขภาวะ
การสร้างภาพลวงตาทางบวกในความสัมพันธ์
คือ การสร้างภาพในจินตนาการตามอุดมคติทางบวก และมีอุดมคติที่มาจากความประทับใจต่อคู่รักซึ่งมีพื้นฐานมาจากความเป็นจริง โดยจะเน้นไปที่ข้อดีของคนรัก และมองข้ามข้อเสียของคนรัก
ตัวอย่างเช่น ความจริงของสามีเป็นคนเจ้าชู้ ชอบนอกใจภรรยา แต่สามีมีข้อดีคือหาเงินเก่ง เลี้ยงดูครอบครัวได้ ภรรยามองข้ามข้อเสียเกี่ยวกับความเจ้าชู้ของสามีไป สร้างภาพลวงตาโดยเน้นไปที่ข้อดีคือความสามารถในการดูแลครอบครัวของสามี ภาพลวงตาที่ภรรยาสร้างขึ้นนี้ นักจิตวิทยาพบว่า ทำให้ภรรยารับรู้ว่าสามีดูแลครอบครัวได้ดี มากกว่าที่สามีมองตนเองเสียอีก (Murray & Holmes, 1993)
การศึกษาในคู่รักและคู่สมรสหลาย ๆ งานในหลายปีที่ผ่านมา สามารถสรุปได้ว่า ความพึงพอใจในคนรักและความสัมพันธ์ เกิดมาจากการที่บุคคลสร้างอุดมคติเกี่ยวกับคนรักของตนขึ้นมา เมื่อมีคนรัก บุคคลมักจะมองคนรักไปตามอุดมคติที่ตนสร้างไว้ การสร้างภาพลวงตาทางบวกนี้มีพื้นฐานความจริง จึงเกิดการถ่ายโอนการกระทำทางบวกไปสู่คนรัก คนรักจึงมีพฤติกรรมทางบวกเช่นนั้นตามไปด้วย (Self-fulfilling)
นอกจากนี้ การรับรู้ตนเองในทางบวกและมีความสงสัยในตนเองต่ำ ส่งผลให้บุคคลเชื่อว่าพวกเขาจะมีคนรักที่ดีได้ ดังนั้น การรับรู้ตนเอง การรับรู้คนรักตามอุดมคติ และการรับรู้คนรักตามความเป็นจริง จึงมีผลต่อความพึงพอใจทั้งในคนรักและความสัมพันธ์ทั้งสิ้น
แก้อาการภาพลวงตา
ภาพลวงตา (Optical illusion) เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสายตาของเราได้รับสัญญาณที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง ทำให้เกิดการรับรู้ที่ผิดพลาดหรือมองเห็นภาพในรูปแบบที่แปลกประหลาด การแก้ไขอาการภาพลวงตามักจะขึ้นอยู่กับประเภทของภาพลวงตาและวิธีการที่ใช้ในการสร้างภาพลวงตานั้น แต่มักมีวิธีที่ช่วยลดอาการภาพลวงตาได้บ้างดังนี้:
- การเปลี่ยนที่ตั้ง: ลองเปลี่ยนมุมมองหรือตำแหน่งของตัวคุณต่อภาพ บางครั้งการมองโดยมองตรงมุมอาจช่วยให้เห็นภาพที่ถูกต้องได้มากขึ้น
- การเชื่อมโยงกับภาพเพิ่มเติม: ลองนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในรูปหรือภาพที่เป็นภาพลวงตา เพื่อให้สามารถเข้าใจว่าเหตุผลที่ทำให้เกิดภาพลวงตานั้น
- การทำซ้ำ: ลองมองภาพหรือสิ่งของที่เป็นภาพลวงตาหลายครั้ง เพื่อให้สมองมีโอกาสได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและปรับปรุงการรับรู้
- การใช้สาระและความรู้: ระหว่างการมองภาพลวงตา พยายามระวังว่าสิ่งที่คุณมองเห็นมีความสัมพันธ์กับความเป็นจริงอย่างไร และใช้ความรู้หรือสาระเกี่ยวกับสิ่งนั้นเพื่อช่วยในการเข้าใจ
- การพัฒนาทักษะการมองเห็น: บางครั้งการฝึกฝนทักษะการมองเห็นและการรับรู้สิ่งต่างๆ อาจช่วยเพิ่มความชัดเจนในการมองเห็นและลดการเกิดภาพลวงตาได้
อย่างไรก็ตาม ภาพลวงตาอาจเกิดขึ้นเนื่องจากความต่างกันในสาระสำคัญของการมองภาพ และบางครั้งอาจไม่สามารถแก้ไขได้ทั้งหมด แต่การใช้วิธีดังกล่าวอาจช่วยลดอาการภาพลวงตาให้น้อยลงได้บ้าง
หากคุณมีความกังวลเกี่ยวกับการมองภาพลวงตาที่มีผลกระทบต่อคุณหรือชีวิตประจำวันของคุณ ควรพบแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญทางด้านสายตาเพื่อขอคำปรึกษาและการวินิจฉัยที่แท้จริง โดยอาจจำเป็นต้องได้รับการรักษาทางการแพทย์เพิ่มเติมได้ตามความเหมาะสม
ภาพลวงตาเป็นโรคหรือไม่
ภาพลวงตาไม่ใช่โรคและมักเป็นปรากฏการณ์ที่ปกติที่เกิดขึ้นเมื่อสายตาได้รับสัญญาณที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากการเห็นภาพที่สร้างมาจากการใช้เทคนิคการวาดหรือการจัดเรียงภาพที่ทำให้เกิดความสับสนในสายตา เช่น ภาพที่ดูเคลื่อนไหวแม้ว่าจริงๆ แล้วมันไม่ได้เคลื่อนไหว หรือภาพที่ดูเป็นรูปภาพของสิ่งสองส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกัน แต่มองเหมือนว่าเป็นสิ่งเดียวกัน เป็นต้น
อาการภาพลวงตานี้มักจะหายไปเมื่อเราเปลี่ยนมุมมองหรือเลื่อนสายตาของเรา และไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพสายตาหรือสุขภาพทั่วไปของผู้ที่เกิดอาการนี้ โดยส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องรักษาเองเพราะไม่ได้เป็นโรคหรือภาวะที่ต้องการการรักษาแบบเฉพาะเจาะจง