วิดีโอสั้นนั้นมาแรงเป็นอย่างมากตอนนี้ หลายคนก็หันมาดูวิดีโอสั้นมากใจปัจจุบัน แล้วทางช่องทางไหนละที่ตอนนี้วิดีโอได้รับกระแส สำหรับนักการตลาดแล้วเราควรที่จะไปช่องไหนบ้าง แล้วช่องไหนที่คนเข้าดูมากกันนะ สถิติการใช้ Social Media Video Content ช่องทางไหนเยอะที่สุด (ปี 2024)
สถิติการใช้ Social Media Video Content ช่องทางไหนเยอะที่สุด (ปี 2024)
อันดับ 1: YouTube
YouTube ครองแชมป์แพลตฟอร์มวิดีโอยักษ์ใหญ่ที่ใคร ๆ ก็รู้จักมีผู้คนใช้เวลามากที่สุด 23 ชั่วโมง 9 นาที/เดือน
จุดเด่นของ YouTube
- รองรับวิดีโอหลากหลายรูปแบบ ความยาว รูปแบบเนื้อหา
- เหมาะสำหรับการสร้างฐานผู้ชมระยะยาว
- มีระบบค้นหาที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้ผู้คนค้นหาเนื้อหาที่ต้องการได้ง่าย
- มีเครื่องมือสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูล ช่วยให้ผู้สร้างเนื้อหาเข้าใจพฤติกรรมผู้ชม
- มีระบบ monetization ที่หลากหลาย ช่วยให้ผู้สร้างเนื้อหารายได้
ประเภทเนื้อหาที่ได้รับความนิยมบน YouTube:
- วิดีโอเพลง
- วิดีโอตลก
- วิดีโอเกม
- วิดีโอ DIY (Do It Yourself)
- วิดีโอรีวิว
- วิดีโอการศึกษา
ตัวอย่างช่อง YouTube ยอดนิยมในประเทศไทย
- WorkpointOfficial: ช่องรายการโทรทัศน์
- THE STANDARD: ช่องข่าวสาร
- Zbing Z.: ช่องตลก
- Kaykai Salaider: ช่องรีวิว
- บ้านเล่าเรื่อง: ช่องสารคดี
อันดับ 2: TikTok
- TikTok แพลตฟอร์มวิดีโอสั้นที่มาแรงแซงทางโค้ง
- TikTok กลายเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่เติบโตเร็วที่สุดในปัจจุบัน ผู้ใช้งานทั่วโลกทะลุ 1 พันล้านคน และในไทยเองก็มีผู้ใช้มากกว่า 30 ล้านคน กลุ่มผู้ใช้หลักคือ Gen Z (อายุ 13-24 ปี)
- จุดเด่นของ TikTok คือรูปแบบวิดีโอสั้น ความยาว 15-60 วินาที เน้นความบันเทิง สร้างสรรค์ และไวรัล
ข้อดีของการใช้ TikTok
- เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย Gen Z ได้อย่างมีประสิทธิภาพ: Gen Z เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง และเปิดรับสิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ
- เพิ่มโอกาสการ viral: วิดีโอบน TikTok มีโอกาสเป็นไวรัลสูง
- กระตุ้น engagement: ผู้ใช้ TikTok มีส่วนร่วมกับเนื้อหามาก
- รูปแบบวิดีโอน่าสนใจ ดึงดูดผู้ชม: วิดีโอบน TikTok มีความสั้น กระชับ น่าสนใจ
ตัวอย่างการใช้ TikTok ประสบความสำเร็จ
- แบรนด์สินค้าต่างๆ: หลายแบรนด์ใช้ TikTok โปรโมทสินค้า
- Influencer บน TikTok: Influencer บน TikTok มีรายได้สูง
- เพลงและเทรนด์ต่างๆ: เพลงและเทรนด์ต่างๆ บน TikTok โด่งดัง
ตัวอย่าง
- แบรนด์เครื่องสำอาง “Maybelline” ใช้ TikTok โปรโมทลิปสติกใหม่ โดยให้ Influencer บน TikTok ถ่ายวิดีโอรีวิวลิปสติก
- “Kochakorn” TikToker ชาวไทย มีผู้ติดตามมากกว่า 10 ล้านคน
- เพลง “Jiggle Jiggle” โด่งดังบน TikTok ผู้ใช้ TikTok ต่างนำเพลงนี้มาประกอบวิดีโอ
อันดับ 3: Facebook
Facebook ยังคงเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ใหญ่ที่สุดในโลก ถึงแม้จะเผชิญกับคู่แข่งใหม่ ๆ แต่ Facebook ยังมีผู้ใช้งานมากกว่า 2 พันล้านคน
จุดเด่นของ Facebook คือรูปแบบเนื้อหาที่หลากหลาย รองรับทั้งวิดีโอสั้น วิดีโอยาว รูปภาพ บทความ และไลฟ์สด
ข้อดีของการใช้ Facebook
- เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้าง: Facebook มีผู้ใช้งานหลากหลายวัย เพศ และอาชีพ
- สร้าง engagement กับผู้ใช้งาน: ผู้ใช้ Facebook มีส่วนร่วมกับเนื้อหามาก
- เหมาะสำหรับการโปรโมทสินค้า: Facebook มีเครื่องมือสำหรับการโฆษณาสินค้ามากมาย
- สร้าง Brand Awareness: Facebook ช่วยให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก
ตัวอย่างการใช้ Facebook ประสบความสำเร็จ
- เพจ “ข่าวสด”: เพจข่าวที่มีผู้ติดตามมากกว่า 20 ล้านคน
- กลุ่ม “ขายของออนไลน์”: กลุ่มสำหรับซื้อขายสินค้าออนไลน์
- ไลฟ์สดขายสินค้า: พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ใช้ Facebook ไลฟ์สดขายสินค้า
อันดับ 4: Instagram
Instagram เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่เติบโตอย่างรวดเร็ว มีผู้ใช้งานมากกว่า 1 พันล้านคน กลุ่มผู้ใช้งานหลักคือ Gen Z และ Millennials
จุดเด่นของ Instagram คือรูปแบบเนื้อหาที่เน้นรูปภาพและวิดีโอสั้น ความยาว 15-60 วินาที เน้นความสวยงาม ดึงดูดสายตา
ข้อดีของการใช้ Instagram
- สร้าง Brand Image: Instagram ช่วยให้แบรนด์มีภาพลักษณ์ที่ดี
- เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย Gen Z และ Millennials: กลุ่มผู้ใช้งานหลักบน Instagram
- กระตุ้น engagement: ผู้ใช้ Instagram มีส่วนร่วมกับเนื้อหามาก
- เหมาะสำหรับการโปรโมทสินค้า: Instagram มีเครื่องมือสำหรับการโฆษณาสินค้ามากมาย
ตัวอย่างการใช้ Instagram ประสบความสำเร็จ
- บัญชี “BLACKPINKOFFICIAL”: บัญชีศิลปิน K-Pop ที่มีผู้ติดตามมากกว่า 50 ล้านคน
- บัญชี “nichaay”: บัญชี Influencer ที่มีผู้ติดตามมากกว่า 10 ล้านคน
- แบรนด์ “Nike”: โปรโมทสินค้าผ่าน Instagram