คนขับรถทุกคนต้องรู้ เช็คใบสั่งจราจรออนไลน์ อย่างไรในปี 2567 วันนี้เราได้รวบรวมมาให้แล้วไปดูกันเลยว่าคุณมีใบสั่งในระบบหรือไม่
เช็คใบสั่งจราจรออนไลน์ อย่างไรในปี 2567
แม้จะขับรถดย่างระวังและรักษากฎจราจรมากแค่ไหน แต่เจ้าของรถก็อาจเผลอทำผิดกฎโดยไม่รู้ตัว ปัจจุบัน การเช็กใบสั่งจราจรที่ได้รับมาว่ามีตกหล่นไปบ้างหรือไม่ สามารถทำได้ผ่านช่องทางออนไลน์แล้ว วันนี้เราได้รวบรวมข้อมูลมาฝากกัน โดยต้องเริ่มจากการลงทะเบียนใช้งานเสียก่อนตามขั้นตอน ดังนี้
วิธีสมัครสมาชิก
1. เข้าเว็บไซต์ ptm.police.go.th/eTicket จากนั้นเลือกเมนู ลงทะเบียนใช้งาน
2. กรอกข้อมูลส่วนตัวตามบัตรประชาชนและเลขหลังบัตรหรือ Laser ID จากนั้นคลิกปุ่ม ถัดไป
3. เลือกรูปแบบข้อมูลที่ต้องการใช้ลงทะเบียนว่าจะใช้เป็นข้อมูลรถที่เป็นเจ้าของหรือใช้ข้อมูลใบขับขี่ โดยจะเลือกได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น จากนั้นคลิก ถัดไป
4. กรอกข้อมูลตามแบบฟอร์มให้ครบถ้วน จากนั้นคลิก ถัดไป
5. ระบบจะแสดงข้อมูลทั้งหมดที่ได้กรอกไว้ ทำการตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้งแล้วกรอกอีเมลเพื่อใช้ในการลงทะเบียน เมื่อเรียบร้อยแล้วให้คลิก ถัดไป
6. เข้าไปตรวจสอบอีเมลที่ใช้ยืนยัน จากนั้นนำรหัส 6 หลักที่ทางระบบส่งไปยังอีเมลมาใช้เพื่อยืนยันการสมัคร
7. ตั้งรหัสผ่านตามที่ต้องการ คลิก ลงทะเบียน จากนั้นอ่านเงื่อนไขและกดยอมรับเงื่อนไขตามด้วยคลิก ยืนยัน
8. สามารถเข้าสู่ระบบโดยใช้เลขบัตรประชาชนและรหัสผ่านที่ลงทะเบียนเอาไว้
วิธีเช็กใบสั่งจราจรออนไลน์
1.ดำเนินการเข้าสู่ระบบด้วยหมายเลขบัตรประชาชน และรหัสผ่านที่ตั้งไว้
2.ค้นหาใบสั่งโดยระบุวันที่กระทำผิด จากนั้นกดปุ่ม “ค้นหา” (สามารถกรองข้อมูลด้วยเลขทะเบียนรถหรือหมายเลขใบสั่งได้)
3.หน้าจอจะปรากฏรายการใบสั่งที่เคยได้รับ โดยสามารถคลิกดูรายละเอียดของใบสั่งแต่ละฉบับได้ (กรณีได้รับใบสั่งมากกว่า 1 คัน จะปรากฏรายการทั้งหมดภายใต้ชื่อผู้ครองครองคนเดียวกัน)
4.ดำเนินการชำระค่าปรับออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT หรือชำระที่สถานีตำรวจ, ธนาคารกรุงไทย, สาขาของไปรษณีย์ไทย, ตู้ ATM ธนาคารกรุงไทยหรือตู้บุญเติม ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร (บก.02) หมายเลขโทรศัพท์ 1197
จ่ายค่าปรับออนไลน์ ได้ที่ไหนบ้าง
จ่ายค่าปรับจราจรผ่านแอปฯ “เป๋าตัง”
- เข้าแอปฯ เป๋าตัง เลือก “G-Wallet.
- เลือก “จ่ายบิล”
- เลือก “ค่าปรับจราจร”
- ระบุ “เลขที่ใบสั่ง” และ “เลขบัตรประชาชน”
- ระบุ “จำนวนเงินค่าปรับ”
- ตรวจสอบข้อมูล และกด “ยืนยันการจ่ายบิล”
- ใส่รหัส PIN 6 หลัก
- ทำรายการสำเร็จ
จ่ายค่าปรับออนไลน์ กรุงไทย ผ่านแอปพลิเคชัน “Krungthai NEXT”
- กดเข้าแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT.
- ไปที่เมนู “จ่ายบิล”
- เลือกรายการ “สำนักงานตำรวจแห่งชาติ – ค่าปรับจราจร” ในหมวดหน่วยงานราชการ
- กรอกเลขที่ใบสั่ง 13 หลัก และเลขบัตรประชาชนผู้กระทำผิด
- กดตรวจสอบยอด หากข้อมูลถูกต้องจะปรากฎยอดค่าปรับที่ต้องชำระ
- จ่ายเงินค่าปรับ เป็นอันเสร็จสิ้น
จ่ายค่าปรับออนไลน์ ใบสั่งอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ใบสั่งออนไลน์
- สแกน QR Code ท้ายใบสั่งออนไลน์ ด้วย Mobile Banking ตามธนาคารที่ใช้บริการอยู่
- จะขึ้นชื่อผู้รับโอน “สำนักงานตำรวจแห่งชาติ-ค่าปรับจราจร” เท่านั้น
- ยอดค่าปรับจะขึ้นตรงตามในใบสั่ง
- จากนั้นก็ชำระได้เลย
จ่ายค่าปรับออนไลน์ผ่านแอปฯ KHUB DEE
- ดาวน์โหลดแอปฯ KHUB DEE
- ลงชื่อเข้าใช้และลงทะเบียน พร้อมกรอกข้อมูลให้เรียบร้อย
- กด “ตรวจสอบใบสั่ง”
- ชำระค่าปรับผ่าน QR Code ได้ทันที
โดนใบสั่ง ไม่จ่ายได้ไหม ?
กรณีที่เราโดนใบสั่งแล้วไม่จ่ายค่าปรับ จะไม่สามารถทำได้ และทางกรมขนส่งทางบกจะดำเนินการ “ออกป้ายวงกลมให้” สำหรับใช้เป็นหลักฐานชั่วคราว แทนการออกเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีประจำปี เพราะระหว่างที่เราไม่จ่ายค่าปรับ นอกจากจะถูกอายัดใบขับขี่แล้ว โทษสูงสุดคือการถูกหมายจับ! แต่เมื่อจ่ายค่าปรับเรียบร้อยแล้ว สามารถไปยื่นรับป้ายภาษีได้ตามปกติ มิเช่นนั้น จะถูกงดออกเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีประจำปีตัวจริง
โดนใบสั่ง ต้องจ่ายภายในกี่วัน
หากโดนใบสั่ง ต้องจ่ายค่าปรับภายใน 30 วัน
ถ้าได้ใบสั่งแล้วไม่จ่าย ต่อภาษีรถยนต์ได้หรือไม่?
ในกรณีที่ได้ใบสั่งมาแล้วไม่จ่ายค่าปรับภายใน 30 วัน จะโดนใบเตือน ถ้าไม่ตอบรับภายใน 15 วัน จะโดนหมายเรียก และถ้าไม่มาตามหมายเรียกถึง 2 ครั้ง ทางตำรวจจะยื่นคำร้องพร้อมอนุมัติศาลขอหมายจับ พร้อมโทษปรับ 1,000 บาท ถ้าไม่จ่ายใบสั่ง จะไม่สามารถต่อภาษีรถยนต์ได้ ไม่สามารถนำรถไปใช้ได้ เพราะถ้านำรถไปใช้ จะโดนปรับฐานไม่ต่อภาษียานพาหนะ มีโทษปรับสูงสุด 2,000 บาท ถ้าไม่อยากเจ็บแบบจุกๆ แนะนำให้จ่ายค่าปรับตามใบสั่งก่อนจะดีที่สุด