โรคพิษสุนัขบ้า เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสโรคพิษสุนัขบ้า (Rabies virus) ซึ่งส่วนใหญ่มักถูกนำเข้าไปยังร่างกายของมนุษย์ผ่านการถูกกัดโดยสัตว์ที่ติดเชื้อ เช่น สุนัข แมว หรือสัตว์อื่น ๆ ที่เป็นพาหะโรค โรคนี้มีอาการรุนแรงเมื่อเชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกายแล้ว โดยจะมีอาการป่วยเร็วและมีความรุนแรง เช่น อาเจียน ปวดหัว ปัสสาวะมากขึ้น และสมองทำงานผิดปกติ หากไม่ได้รับการรักษาทันที โรคพิษสุนัขบ้าสามารถทำให้เสียชีวิตได้
การป้องกัน โรคพิษสุนัขบ้า สำคัญมาก เนื่องจากไม่มีการรักษาที่มีประสิทธิภาพเมื่อเกิดอาการรุนแรงแล้ว วิธีป้องกันโดยทั่วไปคือการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า (rabies vaccine) และการทำความสะอาดบาดแผลที่ถูกกัดหรือถูกสัมผัสโดยสัตว์ที่เป็นพาหะโรค นอกจากนี้ หากมีการถูกกัดโดยสัตว์ที่เป็นสายพันธุ์เสี่ยง หรือมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อ ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการตรวจและรับการรักษาให้ทันที เพื่อลดโอกาสในการเป็นโรคพิษสุนัขบ้าได้มากที่สุด
คนติดโรคพิษสุนัขบ้าจากสัตว์ชนิดไหนบ้าง
คนสามารถติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าจากการถูกกัดหรือถูกสัมผัสสารน้ำลายหรือน้ำลายของสัตว์ที่ติดเชื้อไวรัสโรคพิษสุนัขบ้า (Rabies virus) โดยสัตว์ที่มักจะเป็นพาหะโรคและส่วนใหญ่จะเป็นสัตว์เลี้ยง เช่น
สุนัข: สุนัขเป็นสัตว์ที่เป็นพาหะโรคพิษสุนัขบ้าอย่างน่าสังเกต เนื่องจากสุนัขมักจะแสดงอาการที่ไม่ปกติเมื่อติดเชื้อไวรัส และมักจะโต้แย้งหรือทำท่าทางที่ไม่เหมือนเดิม
แมว: แมวอาจเป็นพาหะโรคพิษสุนัขบ้าได้เช่นกัน แมวที่ติดเชื้อโรคสามารถแพร่กระจายไวรัสได้ผ่านน้ำลายหรือการกัด
กระรอก: กระรอกเป็นสัตว์ที่อาจเป็นพาหะโรคพิษสุนัขบ้าได้ โดยเฉพาะในบางพื้นที่ที่มีกระรอกมีการระบาดของโรค
ควาย: สำหรับบางพื้นที่ที่มีการระบาดของโรค ควายอาจเป็นสัตว์ที่เป็นพาหะโรคด้วย
นอกจากนี้ยังมีสัตว์อื่น ๆ ที่สามารถเป็นพาหะโรคได้ตามสภาพแวดล้อมและสภาพการระบาดของโรคในพื้นที่นั้น จึงควรระวังและป้องกันการสัมผัสกับสัตว์ที่มีความเสี่ยงโดยตลอดเวลา เพื่อป้องกันการติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าได้มากที่สุด
อาการขอโรคพิษสุนัขบ้า
โรคพิษสุนัขบ้ามีอาการหลายอย่างที่เกิดขึ้นหลังจากการติดเชื้อไวรัสโรคพิษสุนัขบ้า อาการสามารถแบ่งออกเป็นสามขั้นตอนหลัก ได้แก่:
ขั้นตอนประจำ: ในขั้นตอนนี้ผู้ป่วยมักจะมีอาการไม่แสดงออก หรือมีอาการไม่แสดงออกเล็กน้อยเท่านั้น อาจมีอาการเบื้องต้นเช่น ความเหนื่อยง่าย ปวดหัว หรือไข้เล็กน้อย และอาจมีอาการที่จำเป็นต้องทำความสะอาดบาดแผลที่ถูกกัดโดยสัตว์ที่เป็นพาหะโรคพิษสุนัขบ้า
ขั้นตอนระหว่าง: ในขั้นตอนนี้ผู้ป่วยมักจะมีอาการที่รุนแรงขึ้น เมื่อไวรัสเข้าสู่ระบบประสาท อาการสามารถเริ่มต้นด้วยอาการที่ทางเดินหายใจและทางเดินอาหาร เช่น ไอ หรือทางเดินอาหารเจ็บปวด รวมถึงอาการอื่น ๆ เช่น กระสับกระส่าย หงุดหงิด ความวิงเวียน และไม่สามารถควบคุมกล้ามเนื้อได้ อาจเกิดปัญหาการหายใจและหัวใจในที่สุด
ขั้นตอนสุดท้าย: ในขั้นตอนนี้ อาการจะเริ่มแสดงให้เห็นชัดเจนขึ้น โดยมีอาการสมองเสื่อมทำให้ผู้ป่วยแสดงอาการที่ไม่เหมือนเดิม เช่น อาการที่มองเห็นได้ง่าย เช่น ความหงุดหงิด ความกลัวและการทำท่าทางที่ไม่ปกติ เมื่ออาการเข้าสู่ขั้นตอนนี้ มักจะมีโอกาสที่จะรักษาไม่หายใจหรือเสียชีวิตได้ เนื่องจากไม่มีการรักษาที่มีประสิทธิภาพหลังจากเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายของโรค การวินิจฉัยและรักษาในขั้นตอนแรกๆ ของโรคมีความสำคัญอย่างมาก เพื่อลดโอกาสในการเสียชีวิตที่สูงขึ้น
ข้อควรปฎิบัติเมื่อโดนสัตว์กัด
ทำความสะอาดบาดแผล: โดยการล้างบาดแผลด้วยน้ำประจำเนื้อหรือน้ำเกลือ (เนื่องจากเป็นวิธีที่สามารถลดการติดเชื้อได้) หากมีบาดแผลให้ใช้สบู่เหลวล้างบาดแผลอย่างสม่ำเสมอ และหากมีการเลือดออกให้กดบริเวณบาดแผลเพื่อหยุดเลือด
หาข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์: หากเป็นไปได้ ควรระบุสัตว์ที่กัด เช่น สีขน ลักษณะเด่น ๆ เพื่อช่วยให้แพทย์ทำการประเมินความเสี่ยงและการรักษาได้อย่างถูกต้อง
พบแพทย์โดยเร็ว: หลังจากการกัด ควรพบแพทย์โดยเร็วที่สุด เพื่อให้ได้รับการประเมินสุขภาพและการรักษาที่เหมาะสม แพทย์จะต้องทำการประเมินความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าและให้คำแนะนำในการดูแลและรักษา
การรับวัคซีน: แพทย์อาจแนะนำให้รับวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าหรือทำการให้วัคซีนป้องกันเพิ่มเติม ซึ่งอย่างมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อ
การติดตามอาการ: หลังการได้รับการรักษา ควรติดตามอาการของบาดแผลและสุขภาพโดยใกล้ชิด และรายงานถึงแพทย์หากมีอาการผิดปกติ เช่น บาดแผลที่อักเสบหรือมีการหายใจลำบาก
การรายงาน: หากเกิดการกัดจากสัตว์ที่เป็นพาหะโรคพิษสุนัขบ้า เช่น สุนัขหรือแมว ควรรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับหน่วยงานสาธารณสุขหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีการตรวจสอบสถานการณ์และดำเนินการป้องกันการระบาดอย่างเหมาะสม
จะป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า อย่างไร
เมื่อโดนสัตว์กัดมีข้อควรปฎิบัติที่สำคัญต่อการป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าได้แก่:
ทำความสะอาดบาดแผล: หลังจากโดนกัด ควรทำความสะอาดบาดแผลทันทีด้วยน้ำสบู่และน้ำเกลือ หรือสารที่มีเชื้อโรคฆ่าตัวเชื้อได้ เพื่อลดโอกาสให้เชื้อไวรัสโรคพิษสุนัขบ้าเข้าทำลาย
หาข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์ที่กัด: พยายามระบุสัตว์ที่กัดและดูข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เช่น เจ้าของสัตว์ ประวัติการฉีดวัคซีน หรือสภาพสุขภาพของสัตว์
ไปพบแพทย์ทันที: หากโดนสัตว์กัด ควรไปพบแพทย์ทันทีเพื่อการประเมินและการรักษา เพราะแม้จะไม่มีอาการติดเชื้อในตอนนั้น แต่การรับวัคซีนก่อนเกิดอาการอาจช่วยป้องกันการติดเชื้อได้
รับวัคซีนและบำรุงสุขภาพ: หากแพทย์และผู้เชี่ยวชาญแนะนำ ควรรับวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าตามที่กำหนด และปฏิบัติตามคำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพให้ดี
การป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเน้นไปที่การปฏิบัติต่อสัตว์ที่เป็นพาหะโรค การรับวัคซีนป้องกัน และการรักษาบาดแผลจากการกัดที่ถูกต้อง นอกจากนี้ การเลี้ยงสัตว์ในสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงต่ำ และการเฝ้าระวังอาการที่ไม่ปกติของสัตว์เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยลดโอกาสในการติดเชื้อในมนุษย์ลงได้อีกด้วย